เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่งอากาศยังหนาวเย็นได้ใจโดยเฉพาะภาคเหนือนั่นทำให้ผมตัดสินใจพาครอบครัวเดินทางขึ้นไปแอ่วเหนือโดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่เชียงใหม่ เมืองที่ขึ้นชื่อว่าโด่งดังที่สุดแห่งภูมิภาคนี้ แถมมีโปรแกรมว่าต้องได้ไปเหยียบสวนสัตว์เชียงใหม่แบบเต็มๆ สักครั้งอีกด้วย ทริปนี้วางแผนเอาไว้ว่าจะพักซัก 3 วัน 2 คืน เดินทางโดยเครื่องบินเพียงชั่วโมงเศษก็ถึงแล้ว นั่นทำให้เรามีเวลาในการทำกิจกรรมได้เยอะ แต่สำหรับทริปเดินทางไปสวนสัตว์เชียงใหม่นี้เราวางเอาไว้คือวันที่ 2 ที่จะได้เที่ยวแบบเต็มๆ ไม่ต้องมีอะไรมารบกวน

หลังจากลงสนามบินเชียงใหม่เรียบร้อยวันแรกเราก็เดินเล่นๆ ตามตัวเมืองหรือตามที่พักใกล้โรงแรมโดยไม่ได้มีแผนอะไรวางไว้พิเศษ เพราะไฮไลท์คือการได้ไปสวนสัตว์เชียงใหม่พรุ่งนี้ เช้าวันต่อมาเราจัดแจงทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อยแล้วออกเดินทางด้วยการเหมารถไปยังสวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น มีเนื้อที่ถึง 531 ไร่ รวบรวมสัตว์ต่างๆ เอาไว้มากมายกว่า 7 พันตัว โอบล้อมด้วยป่าไม้ ขุนเขา เรามาถึงที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อหวังได้สัมผัสกับบรรยากาศอย่างเต็มที่ เสียค่าเข้าคนละ 100 บาท
เมื่อเดินเข้ามาจะพบกับป้ายสวนสัตว์เชียงใหม่ 3 ภาษา คือภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาล้านนา โดยภายในสวนสัตว์นี้เราได้เดินตามเส้นทางไปเรื่อยเปื่อยแต่ขอบอกว่าพื้นที่ของสวนสัตว์แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาทำให้ทางมันจะลาดชันตลอดไม่มีพื้นเรียบๆ เลย ส่งผลให้ถ้าใครเน้นเดินล้วนๆ ก็ระวังหอบกันด้วยเราเดินมาเจอกับสัตว์นานาชนิดที่อวดโฉมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสมากมายไม่ว่าจะเป็นฮิปโปโปเตมัส, นกกระจอกเทศ บริเวณสวนนกนครพิงค์ พักเสียงนอกต่างๆ กว่า 800 ตัว พร้อมถ่ายรูปเก็บเอาไว้อย่างเพลิดเพลิน มายังจุดแสดงนกเพนกวินซึ่งจัดแสดงเอาไว้เป็นสระน้ำตามสภาพที่นกเพนกวินอาศัยอยู่ เดินเลาะมาเรื่อยๆ ยังเกาะชะนีซึ่งชะนีจะใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ อาคารเลี้ยงแมวน้ำ อุทยานสัตว์น้ำซึ่งมีสัตว์น้ำจืดร่วม 60 ชนิดอาศัยอยู่
จนมาถึงไฮไลท์สำคัญสำหรับการมายังสวนสัตว์เชียงใหม่แห่งนี้ก็คือการได้เข้าไปเยี่ยมชมหมีแพนด้านั่นคือช่วงช่วงกับหลินฮุ่ย โดยต้องเสียค่าเข้าแยกต่างหากจากค่าบัตรคือ 50 บาท แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอนเพราะมันช่างน่ารักเสียเหลือเกิน ถือว่าทริปนี้คุ้มค่าจริงๆ กับการได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมสวนสัตว์เชียงใหม่ สร้างความประทับใจให้ตัวผมและครอบครัวอย่างมาก ครั้งหน้าสัญญาว่าจะกลับมาอีกแน่นอนสำหรับสวนสัตว์แห่งนี้