เวลารู้สึกช่วงนี้ตัวเองไม่ค่อยประสบความสำเร็จในด้านอะไรสักเท่าไหร่ทั้งการงาน ความรัก มีปัญหาในชีวิตเยอะคนส่วนใหญ่ก็มักเลือกเข้าวัดทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของตนเองหรือให้ใครก็ตามขึ้นอยู่กับความเชื่อของบุคคลนั้นๆ แต่สำหรับตัวผมเองเวลาที่มีปัญหาชีวิตในช่วงต่างๆ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามมักจะเลือกไปทำบุญโรงศพเพราะเชื่อว่านี้เป็นอีกวิธีการหนึ่งสำหรับคนที่มีต้องการสลัดปัดเป่าเรื่องไม่ดีให้ออกไปจากตัวให้เร็วที่สุด
สถานที่ที่ผมมักชอบเดินทางไปทำบุญโรงศพก็คือวัดหัวลำโพงเนื่องจากตัวเองอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แถมยังต้องทำงานประจำอีกต่างหาก การจะเดินทางไปร่วมทำบุญโรงศพตามต่างจังหวัดที่เขาจัดงานเลยเป็นเรื่องยากเสียหน่อย จุดเด่นของวัดหัวลำโพงแห่งนี้ก็คือเดินทางสะดวกแถมพอเลิกงานก็มาได้ไม่ต้องกลัวว่าจุดที่ทำบุญโลงศพจะปิด ซึ่งปกติแล้วเวลาผมเลือกเดินทางมายังวัดแห่งนี้ผมมักจะใช้การโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินลงสถานีสามย่านเพราะมันช่างสะดวกสบายไม่ต้องฟันฝ่ารถติดให้เสียอารมณ์ เมื่อมาถึงก็เดินเข้าวัดได้เลย ซึ่งผมมักจะเข้าไปกราบไหว้พระในวัดรวมถึงขึ้นไปกราบหลวงพ่อในพระอุโบสถก่อน จากนั้นก็จะมาทำทานไถ่ชีวิตโคกระบือ เมื่อทำภารกิจด้านในตัววัดเสร็จเรียบร้อยก็ถือช่วงเวลาสำคัญนั่นคือการเดินไปด้านข้างเพื่อร่วมทำบุญโรงศพกับมูลนิธิร่วมกตัญญูและบริเวณศาลเจ้าพ่อเขาตก
เมื่อเดินเข้ามาจะพบว่ามีโต๊ะเก้าอี้ตั้งเรียงยาวเป็นแถวพร้อมพนักงานของมูลนิธิคอยให้บริการ ผมก็แค่เดินเข้าไปพร้อมบอกว่ามาทำบุญโลงศพ จากนั้นก็จะปฏิบัติตามขั้นตอนง่ายๆ คือ
- เขียนชื่อ สกุล ลงกระดาษสีชมพูแล้วให้เงินกับเจ้าหน้าที่ตามกำลังศรัทธา (ส่วนใหญ่ผมก็ให้หลักร้อยขึ้นตลอด)
- เจ้าหน้าที่จะออกใบคล้ายๆ ใบอนุโมทนาบุญให้เก็บเอาไว้แล้วนำกระดาษสีชมพูเดินเข้าไปด้านใน
- พอมาถึงจะเป็นเหมือนเคาน์เตอร์ทากาวแป้งเปียก ให้ทาหลังกระดาษชมพู พอทาเสร็จก็เอาไปแปะไว้ตรงโลงศพที่วางซ้อนๆ กันอยู่ แล้วก็อธิษฐานอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ศพไร้ญาติและอื่นๆ ตามแต่เราต้องการ
- พอแปะกระดาษเสร็จให้เดินมาจุดธูป 20 ดอกแล้วเดินเข้าไปยังศาลเจ้าพ่อเขาตก ไหว้เทพต่างๆ โดยปักกระถางละ 3 ดอก 6 กราง เหลืออีก 2 ดอก ปักกระถางหน้าศาลเจ้าข้างละดอก
- นำใบอนุโมทนาบุญที่ได้ไว้มาเผาที่กระถางเผากระดาษโดยอุทิศส่วนกุศลตามแต่ใจนึกแล้วหย่อนไปได้เลย
ก่อนกลับก็แวะตีกลองตีระฆังนิดหน่อยสบายใจดีนักแล